กลุ่มเครื่องปรับอากาศฯ 13 โรงงานขานรับกรมโรงงานฯที่เตรียมเทงบฯ 700 ล้านให้ปรับเครื่องจักรให้สามารถผลิตแอร์รองรับการใช้น้ำยาแอร์ใหม่ R32 เพื่อลดสาร CFC ยอมรับกระทบราคาขายแอร์ 5-10% วางเป้าหมายเลิกการนำเข้าน้ำยาแอร์ตัวเก่า R22 เป็นศูนย์ในปี 2573
นางจินตนา ศิริสันธนะ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เตรียมปรับเปลี่ยนการใช้น้ำยาสำหรับเครื่องปรับอากาศในขนาดต่ำกว่า 24,000 บีทียู จากเดิมที่เป็นน้ำยา R22 ที่มีสารเอชซีเอฟซี (HCFCs) เปลี่ยนมาเป็นน้ำยา R32 แทน เพื่อลดการปล่อยสาร CFC ที่จะทำลายชั้นบรรยากาศ ตามนโยบายของกรมโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการให้ยกเลิกการใช้สารดังกล่าวแบบขั้นบันไดจนกระทั่งเป็นศูนย์ในปี 2573 ตามที่ไทยได้ลงนามสนธิสัญญาตามพิธีสารมอนทรีออล ที่กำหนดให้ประเทศสมาชิกต้องยกเลิกใช้สารดังกล่าว
ทั้งนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ของบประมาณจากองค์การระหว่างประเทศ 700 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือประเทศที่กำลังพัฒนาในการปรับเปลี่ยนการใช้น้ำยาเครื่องปรับอากาศจาก R22 เป็น R32 แทน โดยขณะนี้มีโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศไทยที่ต้องการเข้าร่วมโครงการเพื่อปรับเปลี่ยนการใช้น้ำยาดังกล่าวประมาณ 13 โรงงาน และยังมีโรงงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกกว่า 10 โรงงานที่ต้องการเข้าร่วม เช่น โรงงานฉีดโฟมในตู้เย็น สำหรับงบประมาณนี้ไม่ได้สนับสนุนในรูปแบบของเงิน แต่จะสนับสนุนในการจัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่สามารถผลิตเครื่องปรับอากาศที่รองรับการใช้น้ำยา R32 แทน
"ไทยปรับไปใช้น้ำยา R32 แทนที่จะใช้น้ำยา R410A ที่มีการใช้ในยุโรปและสหรัฐ เพราะน้ำยา R410A มีข้อเสีย คือมีค่า GWP (Global warming potential)
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
updated: 25 มี.ค. 2556 เวลา 11:12:41 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
updated: 25 มี.ค. 2556 เวลา 11:12:41 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์